ผมมองความ Functional และความแพงที่เป็นเหตุเป็นผล


คุณธนพนธ์ เบญจรงคกุล
ผู้บริหาร กลุ่มบริษัทเบญจจินดา
เจ้าของรถยนต์เลกซัส RX 200t


“ราคาขายต่อของ RX ดีกว่าฝั่งยุโรปครับ ซึ่งสำหรับผมความเป็นเอเชียหรือยุโรปไม่ใช่ประเด็นในการตัดสินคุณภาพ ผมมองความ Functional และความแพงที่เป็นเหตุเป็นผล สำหรับเลกซัสผมกล้าพูดว่าคุณภาพที่ได้รับคุ้มกับเงินที่จ่ายไป”


ตอนที่เลือกคันนี้จริงๆ แล้วตัวเลือกในไทยก็มีเยอะ แต่ผมเลือก RX ด้วย 2 เหตุผล หนึ่งคือคุณพ่อแนะนํา เพราะท่านใช้เลกซัสมา 30 ปีแล้ว และสองคือความคุ้มค่า

ผมเป็นคนดูรายละเอียดเยอะมากก่อนตัดสินใจซื้อรถ จึงมองไปถึงค่าบํารุงรักษาในอนาคตและบริการหลังการขาย โดยรวมแล้วแบรนด์ฝั่งยุโรปค่าบํารุงรักษาสูงกว่ามาก หรืออย่างเช่นล้อ ซึ่งล้อของ RX เป็นไซส์มาตรฐานที่หาซื้อได้ง่าย ต่างจากแบรนด์ยุโรปที่ล้อกว้างกว่า ซึ่งหากต้องเปลี่ยนจะหายาก และราคาแพงกว่า และราคาขายต่อของ RX ก็ยังดีกว่าอีกด้วย ส่วนเรื่องบริการ ประสบการณ์ที่เลกซัสมอบให้ไม่เหมือนกับที่ไหนเลยครับ เขาจะ personalize มากๆ แม้เซลล์จะขายรถให้เราแล้วก็ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด ติดต่อได้ตลอด ไม่ต่างจากวันแรกที่ผมไปซื้อรถ แบรนด์อื่นๆ จะไม่ได้มีใครคนใดคนหนึ่งที่ดูแลเราเป็นพิเศษ 1 ต่อ 1 แบบนี้

ทุกคนที่ใช้เลกซัสรู้ดีว่าเขาเป็นรถที่นุ่ม แม้จะขับบนถนนประเทศไทยที่ไม่ค่อยเรียบก็ยังนั่งสบาย และไม่ใช่แค่คนขับ แต่ใครที่มานั่งไม่ว่าเบาะหน้าหรือเบาะหลังก็จะบอกว่านุ่มสบายมากๆ แต่เรื่อง performance ก็ไม่ด้อยกว่าใคร

เลกซัสมีโหมดการขับให้เลือกได้ตั้งแต่ Eco จนถึง Sport ทําให้ไม่ว่าจะขับแบบไหนรถก็สามารถปรับระบบให้อยู่ใน Performance ที่ดีจนเรามั่นใจได้ แต่ส่วนตัวผมใช้แค่โหมด Eco ก็รู้สึกว่าไม่ได้ด้อยกว่าใครอยู่แล้ว เพราะจริงๆ เลกซัสเป็นรถที่เทคโนโลยีคุณภาพของตัวรถสูงมาก จะมองแง่ไหนก็ไม่แพ้ใครแน่นอน นอกจากนั้นยังควบคุมง่าย ขับทางไกลไม่เหนื่อย เปลี่ยนเกียร์ได้ Smooth กว่ารถยุโรป และยังคิดเผื่อผู้ใช้ ทุกส่วนออกแบบมาพอดีและสะดวกสบาย ฟังก์ชั่นต่างๆ ใช้ง่าย เช่นตําแหน่งการวางจอจะไม่อยู่ตรงกลางคอนโซลเหมือนแบรนด์อื่นๆ ซึ่งไม่ปลอดภัยเลยเวลาดูแผนที่ แต่ของเลกซัสจะอยู่ในระดับที่ไม่ต้องเหลือบตาลงและยังมองถนนได้ด้วย ส่วนการจัดพื้นที่ก็ Flexible และ Functional เวลาไปตีกอล์ฟกัน 4 คน มีถุงกอล์ฟ 4 ใบก็นั่งกันไปสบายๆ หรือหากจะพับเบาะหลังก็แค่กดปุ่มเพียงปุ่มเดียว

ถ้าคุณรู้จักเลกซัสจริงๆ จะรู้ว่าต่างจากโตโยต้าอย่างสิ้นเชิง แต่การที่ 2 แบรนด์นี้อยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันผมกลับมองว่านี่คือข้อดีและจุดแข็ง

เพราะเขาสามารถส่งเสริมกับได้ในจุดที่เหมาะสม เช่นในแง่ของอะไหล่หรือชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะเห็นได้ว่าเลกซัสพร้อมกว่าทุกแบรนด์ในระดับเดียวกัน ทุกวันนี้ครอบครัวผมใช้เลกซัสกันทั้งบ้าน ทั้งคุณพ่อ ตัวผม และน้องชาย และรถคันนี้ใช้มากว่า4 ปีก็ไม่เคยมีปัญหากวนใจเลยสักครั้ง